“พีระพันธุ์” สวนปลัดพลังงาน ปมพิรุธน้ำมันล้านลิตรส่งลาวทำเหมือง ลั่นต้องจบศึกเขมรให้สิ้นสภาพ

“พีระพันธุ์” สวนปลัดพลังงาน ปมพิรุธน้ำมันล้านลิตรส่งลาวทำเหมือง ลั่นต้องจบศึกเขมรให้สิ้นสภาพ ด้วยอาวุธที่เหนือกว่า ย้อนถาม “วันนี้รู้หรือยังทหารมีไว้ทำไม?”
.
วันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "คุยข้ามช็อต" ทางช่อง PPTV HD 36 ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังมีการปะทะกันอย่างดุเดือด โดยกัมพูชายังคงระดมยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 อย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่ากระสุนจะหมด
.
นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า "ถ้ากัมพูชาไม่คิดว่ารับมือประเทศไทยไหว จะก่อศึกกับประเทศไทยหรือไม่" แสดงว่ากัมพูชาประเมินแล้วว่าสู้กับไทยได้ ปัญหานี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดวันนี้ แต่เกิดมานานแล้ว เพียงแต่หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งฝ่ายการเมืองหรือข้าราชการ ไม่เคยให้ความสำคัญกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามาก่อน ความจริงการเกิดข้อขัดแย้งในลักษณะนี้มีมาไม่ต่ำกว่า 50 ปี ตั้งแต่ปี 2505 ที่ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา หลังจากนั้นความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ก็มีปัญหากันมาโดยตลอด ทั้งนี้ เป้าหมายที่สืบต่อกันมาของกัมพูชาคือการยึดครองแผ่นดินไทย โดยเตรียมการมานานแล้วด้วยการสะสมอาวุธ
.
"เศรษฐกิจกัมพูชาสู้ไทยไม่ได้ ทั้งตัวเลข GDP หรือการลงทุนสู้ไทยไม่ได้สักอย่าง แต่แทนที่จะเอาเงินไปดูแลประเทศ กลับนำเงินจำนวนมากมาเตรียมอาวุธ”
.
ที่ผ่านมาประเทศไทยอาจมองว่าอาวุธที่มีอยู่นั้นเพียงพอสำหรับการป้องกันตัว แต่ในความเป็นจริงอาวุธเหล่านั้นอาจไม่ ‘เพียงพอ’ ต่อการยับยั้งการรุกรานจากข้าศึก เราต้องตระหนักว่ายุทโธปกรณ์ไม่ใช่สินค้าที่ซื้อหาได้ทันทีในยามวิกฤต ทุกอย่างต้องเตรียมการล่วงหน้า ดังนั้นทำไมเราจึงไม่เร่งเตรียมความพร้อมและยกระดับเทคโนโลยีให้กับกองทัพของเรา
.
"ถ้าเรายังไม่เรียนรู้ ไม่สนับสนุนกองทัพ และยังถามว่าทหารมีไว้ทำไม จะจัดงบประมาณให้กองทัพเพื่ออะไร วันนี้ได้คำตอบหรือยัง”
.
นายพีระพันธุ์เน้นย้ำว่า การสนับสนุนกองทัพต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่เหมาะสม เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับขวัญและกำลังใจของกำลังพล รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ อะไรที่เสี่ยงเป็นอันตรายต้องสงสัยไว้ก่อน ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง
.
ส่วนเรื่องการสกัดกั้นน้ำมันและยุทธปัจจัย สืบเนื่องจากกรณีรถบรรทุกน้ำมันจำนวนมากรออยู่ที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้สั่ง ปลายทางอยู่ที่ใด ส่งไปกัมพูชาโดยใช้ สปป.ลาว เป็นทางผ่านหรือไม่
.
นายพีระพันธุ์ ตั้งข้อสงสัยกรณีที่ปลัดพลังงานออกโรงยันน้ำมันไทยใช้ใน สปป.ลาว เท่านั้น โดยระบุว่า ตามตัวเลขในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สปป.ลาว ใช้น้ำมันสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เพียงแค่ 3 ล้านลิตร เท่านั้น แต่เหตุใดรอบนี้ถึงซื้อไปถึง 4 ล้านลิตร แล้วอีก 1 ล้านลิตรไปไหน
.
นายพีระพันธุ์ เน้นย้ำรัฐบาลว่า สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่แค่ขอความร่วมมือ แต่คือการจับกุมและดำเนินคดีทันที รถบรรทุกน้ำมันทุกคันที่ผ่านด่านช่องเม็กต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยไม่มีข้อยกเว้น ตรวจสอบเอกสารการส่งออกอย่างละเอียดว่าปลายทางที่แท้จริงคือที่ใด และเมื่อรถบรรทุกเดินทางกลับเข้าประเทศ ต้องมีการควบคุมตัวและสอบปากคำคนขับทุกคันเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่า น้ำมันถูกนำไปส่งที่ใด มีการส่งต่อหรืออ้อมเส้นทางไปยังจุดอื่นหรือไม่
.
"การทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพภัยคุกคาม คือการทำลายกำลังพลและกำลังอาวุธ แต่สงครามจะจบได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมพื้นที่ต่างๆ ได้ และกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยต้องเหนือกว่า" นายพีระพันธุ์ กล่าว
.
ส่วนเรื่องการสกัดกั้นน้ำมันและยุทธปัจจัย สืบเนื่องจากกรณีรถบรรทุกน้ำมันจำนวนมากรออยู่ที่ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้สั่ง ปลายทางอยู่ที่ใด ส่งไปกัมพูชาโดยใช้ สปป.ลาว เป็นทางผ่านหรือไม่
.
นายพีระพันธุ์ เน้นย้ำรัฐบาลว่า สิ่งที่ต้องทำไม่ใช่แค่ขอความร่วมมือ แต่คือการจับกุมและดำเนินคดีทันที รถบรรทุกน้ำมันทุกคันที่ผ่านด่านช่องเม็กต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยไม่มีข้อยกเว้น ตรวจสอบเอกสารการส่งออกอย่างละเอียดว่าปลายทางที่แท้จริงคือที่ใด และเมื่อรถบรรทุกเดินทางกลับเข้าประเทศ ต้องมีการควบคุมตัวและสอบปากคำคนขับทุกคันเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงว่า น้ำมันถูกนำไปส่งที่ใด มีการส่งต่อหรืออ้อมเส้นทางไปยังจุดอื่นหรือไม่
.
"การทำให้กัมพูชาสิ้นสภาพภัยคุกคาม คือการทำลายกำลังพลและกำลังอาวุธ แต่สงครามจะจบได้ก็ต่อเมื่อเราสามารถควบคุมพื้นที่ต่างๆ ได้ และกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของไทยต้องเหนือกว่า" นายพีระพันธุ์ กล่าว
.
ผลิตโดย พรรครวมไทยสร้างชาติ เลขที่ 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
จำนวน 1 ชุด ตามวันและเวลาที่ปรากฏ