ดีเบตแรกเดือด! 'พีระพันธุ์' จัดเต็มนโยบายความมั่นคง-พลังงาน-สแกมเมอร์
อัพเดทล่าสุด: 30 ธ.ค. 2025
1 ผู้เข้าชม

ดีเบตแรกเดือด! 'พีระพันธุ์' จัดเต็มนโยบายความมั่นคง-พลังงาน-สแกมเมอร์ ต้องเอาจริง! ย้ำ "เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ"
.
วันที่ 23 ธันวาคม 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในรายการ “ดีเบต อีกสักตั้ง ไทยรัฐ เลือกตั้ง 69” โดยระบุว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติคือ “เด็ดขาด แก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป แต่ปัญหาที่ยังหนักหน่วงคือวิกฤตของชาติ เช่น ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องแหล่งพลังงานใต้ท้องทะเลที่มีข้อพิพาทไม่จบสิ้น
.
พลังงานนับเป็นต้นทุนสำคัญของประเทศ ทั้งในภาคการผลิต ค่าครองชีพ สังคม การศึกษา และภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง จึงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขด้วยความเด็ดขาดและรวดเร็ว
.
ที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้กลายเป็นวิกฤต เช่น ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่ยืดเยื้อมานาน ขาดความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา อย่างล่าสุดกรณีการถมทะเลและปัญหาแหล่งพลังงาน ซึ่งตนได้เน้นย้ำมาตลอดว่าสาเหตุเกิดจากการไม่เอาจริงเอาจังในการจัดการ
.
“สิ่งที่เราจะเน้นย้ำคือ การฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งเรื่องค่าครองชีพ สวัสดิการสังคม การดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และคนพิการ นอกจากนี้เราต้องพลิกโฉมอนาคตของชาติด้วยการปฏิรูปการศึกษา โดยปรับรูปแบบใหม่ให้ ‘ใครอยากเรียนต้องได้เรียน’ เน้นความสำเร็จในการเรียนจบมากกว่าแค่การสอบเข้า” นายพีระพันธุ์กล่าว
.
นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวถึงการปรับรูปแบบงบประมาณแผ่นดินให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการจัดสรรแบ่งปันงบประมาณระหว่างกระทรวงเท่านั้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรว่า “เราต้องให้โอกาสเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้ลืมตาอ้าปากได้ โดยการนำระบบขายตรงมาใช้กับภาคการเกษตร”
.
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึง การปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ที่ผ่านมา ยังไม่ถูกดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาดเพียงพอ ส่งผลให้ปัญหายังคงลุกลามและสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องต่อประชาชนและประเทศชาติ การแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ไม่ใช่ประเด็นของความขัดแย้งตามแนวชายแดน รัฐบาลจำเป็นต้องเปิดทางให้กองทัพสามารถเข้าปราบปรามและทำลายเครือข่ายสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก ซึ่งกลไกและระบบต่าง ๆ ภายในประเทศต้องถูกตรวจสอบและบังคับใช้อย่างเข้มงวด จริงจัง และไม่เลือกปฏิบัติ ที่สำคัญ “รัฐบาลต้องออกกฎหมายว่าด้วยความผิดของขบวนการสแกมเมอร์เป็นการเฉพาะ พร้อมกำหนดบทลงโทษที่เด็ดขาดและรุนแรง ด้วยการประหารชีวิต”
.
นายพีระพันธ์ กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องพิจารณาว่าแก้เพื่อประโยชน์ของประชาชน หรือแก้เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง หากเป็นการแก้ทางการเมืองพรรคไทยสร้างชาติไม่สนับสนุน แต่พร้อมสนับสนุนหากเป็นการแก้เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้อำนาจรัฐมาข่มเหงรังแก หรือเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนดำรงชีพได้อย่างรวดเร็วและสุจริต
.
ส่วนเรื่อง Entertainment Complex พีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สนับสนุนนโยบายนี้ แต่ ความสำคัญถึงการบังคับใช้กฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้มีหน้าที่ ที่มีความบกพร่อง ทำให้เกิดปัญหาเน่าเฟะ ไม่ใช้ยาแรง ไม่เด็ดขาด ไม่มีกฎหมายรองรับ สะสมปัญหาจนกลายเป็นวิกฤตของประเทศ
.
ขณะที่ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชนของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธ์เน้นเรื่องนโยบายการพักหนี้ นโยบายการตั้งกองทุนภาครัฐช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินโดยไม่คิดดอกเบี้ย นโยบายการแก้ปัญหาใช้หนี้ด้วยงาน นโยบายการจ้างงานภาครัฐ 300,000 ตำแหน่ง เงินเดือนไม่น้อยกว่า 12,000 บาท
.
"ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำวันนี้ไม่ใช่การแจกเงิน แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนที่เดือดร้อนโดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่เกิดปัญหาค้าขายไม่ได้ นโยบายของรวมไทยสร้างชาติจะเข้าไปดูแลตรงนี้" นายพีระพันธุ์กล่าว
.
ผลิตโดย พรรครวมไทยสร้างชาติ 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
จำนวน 1 ชุด ตามวันและเวลา ที่ปรากฎ
.
วันที่ 23 ธันวาคม 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในรายการ “ดีเบต อีกสักตั้ง ไทยรัฐ เลือกตั้ง 69” โดยระบุว่า ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง นโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติคือ “เด็ดขาด แก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป แต่ปัญหาที่ยังหนักหน่วงคือวิกฤตของชาติ เช่น ปัญหาความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องแหล่งพลังงานใต้ท้องทะเลที่มีข้อพิพาทไม่จบสิ้น
.
พลังงานนับเป็นต้นทุนสำคัญของประเทศ ทั้งในภาคการผลิต ค่าครองชีพ สังคม การศึกษา และภาคเกษตรกรรม ซึ่งส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง จึงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขด้วยความเด็ดขาดและรวดเร็ว
.
ที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้กลายเป็นวิกฤต เช่น ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นแต่ยืดเยื้อมานาน ขาดความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา อย่างล่าสุดกรณีการถมทะเลและปัญหาแหล่งพลังงาน ซึ่งตนได้เน้นย้ำมาตลอดว่าสาเหตุเกิดจากการไม่เอาจริงเอาจังในการจัดการ
.
“สิ่งที่เราจะเน้นย้ำคือ การฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งเรื่องค่าครองชีพ สวัสดิการสังคม การดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และคนพิการ นอกจากนี้เราต้องพลิกโฉมอนาคตของชาติด้วยการปฏิรูปการศึกษา โดยปรับรูปแบบใหม่ให้ ‘ใครอยากเรียนต้องได้เรียน’ เน้นความสำเร็จในการเรียนจบมากกว่าแค่การสอบเข้า” นายพีระพันธุ์กล่าว
.
นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวถึงการปรับรูปแบบงบประมาณแผ่นดินให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงการจัดสรรแบ่งปันงบประมาณระหว่างกระทรวงเท่านั้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับภาคการเกษตรว่า “เราต้องให้โอกาสเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้ลืมตาอ้าปากได้ โดยการนำระบบขายตรงมาใช้กับภาคการเกษตร”
.
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึง การปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์ที่ผ่านมา ยังไม่ถูกดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาดเพียงพอ ส่งผลให้ปัญหายังคงลุกลามและสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่องต่อประชาชนและประเทศชาติ การแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ไม่ใช่ประเด็นของความขัดแย้งตามแนวชายแดน รัฐบาลจำเป็นต้องเปิดทางให้กองทัพสามารถเข้าปราบปรามและทำลายเครือข่ายสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก ซึ่งกลไกและระบบต่าง ๆ ภายในประเทศต้องถูกตรวจสอบและบังคับใช้อย่างเข้มงวด จริงจัง และไม่เลือกปฏิบัติ ที่สำคัญ “รัฐบาลต้องออกกฎหมายว่าด้วยความผิดของขบวนการสแกมเมอร์เป็นการเฉพาะ พร้อมกำหนดบทลงโทษที่เด็ดขาดและรุนแรง ด้วยการประหารชีวิต”
.
นายพีระพันธ์ กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องพิจารณาว่าแก้เพื่อประโยชน์ของประชาชน หรือแก้เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง หากเป็นการแก้ทางการเมืองพรรคไทยสร้างชาติไม่สนับสนุน แต่พร้อมสนับสนุนหากเป็นการแก้เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้อำนาจรัฐมาข่มเหงรังแก หรือเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนดำรงชีพได้อย่างรวดเร็วและสุจริต
.
ส่วนเรื่อง Entertainment Complex พีระพันธุ์ กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สนับสนุนนโยบายนี้ แต่ ความสำคัญถึงการบังคับใช้กฎหมายและการปฏิบัติหน้าที่ของผู้มีหน้าที่ ที่มีความบกพร่อง ทำให้เกิดปัญหาเน่าเฟะ ไม่ใช้ยาแรง ไม่เด็ดขาด ไม่มีกฎหมายรองรับ สะสมปัญหาจนกลายเป็นวิกฤตของประเทศ
.
ขณะที่ นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยเหลือประชาชนของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธ์เน้นเรื่องนโยบายการพักหนี้ นโยบายการตั้งกองทุนภาครัฐช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินโดยไม่คิดดอกเบี้ย นโยบายการแก้ปัญหาใช้หนี้ด้วยงาน นโยบายการจ้างงานภาครัฐ 300,000 ตำแหน่ง เงินเดือนไม่น้อยกว่า 12,000 บาท
.
"ซึ่งสิ่งที่จะต้องทำวันนี้ไม่ใช่การแจกเงิน แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนที่เดือดร้อนโดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่เกิดปัญหาค้าขายไม่ได้ นโยบายของรวมไทยสร้างชาติจะเข้าไปดูแลตรงนี้" นายพีระพันธุ์กล่าว
.
ผลิตโดย พรรครวมไทยสร้างชาติ 35/3 ซอยอารีย์ 5 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
จำนวน 1 ชุด ตามวันและเวลา ที่ปรากฎ


